โรคไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์(Thyroid gland)
เป็นต่อมไร้ท่อชนิดหนึ่งที่อยู่บริเวณส่วนหน้าของลำคอ มีน้ำหนักประมาณ 20 กรัม ลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อ
ต่อมไทรอยด์ทำหน้าที่อย่างไร
ทำหน้าที่ผลิตและหลั่งไทรอยด์ฮอร์โมนเข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นส่งไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะต่างๆของร่างกาย ซึ่งจะอยู่ภายใต้การควบคุมของต่อมใต้สมอง(Pituitary gland)และต่อมไฮโปธาลามัส(Hypothalamus)
โดยร่างกายจะมีระบบการควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์อย่างดี เพื่อรักษาระดับไทรอยด์ฮอร์โมนให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตลอดเวลา
ไทรอยด์ฮอร์โมนมีความสำคัญในการกระตุ้นให้อวัยวะต่างๆทั่วร่างกายทำงาน โดยเฉพาะหัวใจและสมอง นอกจากนี้ยังควบคุมระบบการเผาผลาญของเซลล์ต่างๆ ระดับไขมันในเลือด ระบบย่อยอาหาร การควบคุมอุณหภูมิร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ หรือแม้แต่มีผลต่อความแข็งแรงของผิวหนัง ผม เล็บ ด้วย ดังนั้นหากมีความผิดปกติของไทรอยด์ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆของร่างกายทำให้เกิดความผิดปกติตามมา
โรคของต่อมไทรอยด์
1.กลุ่มโรคต่อมไทรอยด์โตแบบเป็นพิษ หรือทำงานมากเกินไป( Hyperthyroidism)
แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ชนิดโตทั่วไป(Graves’disease), ไทรอยด์เป็นพิษชนิดก้อนตะปุ่มตะป่ำ(Toxic multinodular), ไทรอยด์เป็นพิษชนิดก้อนเดี่ยว (Toxic nodule)
ปัจจุบันเชื่อว่า ร่างกายมีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีการสร้างสารแอนติบอดีต่อตนเอง ซึ่งสารนี้ก็ไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น ก็จะสร้างไทรอยด์ฮอร์โมนมากขึ้น ผู้ป่วยจึงมีระดับไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายทำงานมากขึ้นและเร็วขึ้น กระบวนการเมตาบอลิสมสูงขึ้น
อาการ
ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 3ชนิดนี้จะมีอาการเหมือนกันคือ เหนื่อย ใจสั่น ขี้ร้อน น้ำหนักลด เหงื่อออกเยอะ ประจำเดือนน้อยลง ผิวหนังเป็นปื้นหน้าขรุขระ บางรายตาโปน บางรายมีอาการแขนขาอ่อนแรง
การรักษา
-การกินยาต้านไทรอยด์ ยามี 2 ประเภทคือ โพรพิลไทโอยูราซิล (PTU : propylthiouracil), เมทิมาโซล(MMI: methimazole) ซึ่งออกฤทธิ์กดการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน การรักษาด้วยยานี้ต้องระวังผลข้างเคียงของยาได้แก่ ไข้ เม็ดเลือดขาวต่ำ ผื่น ตับอักเสบได้ ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
-การกลืนน้ำแร่ไอโอดีน แร่ไอโอดีนจะไปทำลายเซลล์ของต่อมไทรอยด์ ทำให้ต่อมมีขนาดเล็กลงและสร้างฮอร์โมนได้น้อยลง ปัจจุบันเป็นวิธีที่นิยมเพราะผลข้างเคียงน้อยและไม่ยุ่งยาก และได้ผลเร็ว
-การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ นิยมผ่าตัดในผู้ป่วยที่คอโตมากๆ หรือมีอาการกลืนลำบากหรือหายใจลำบากร่วมด้วย เป็นวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุด ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้คือเสียงแหบ หรือระดับแคลเซียมต่ำจากการที่ต่อมพาราไทรอยด์ถูกตัดออกด้วย ซึ่งหากศัลยแพทย์มีความชำนาญ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
2.โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป(Hypothyroidism)
คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างไทรอยด์ฮอร์โมนน้อยกว่าปกติ ทำให้ระดับฮอร์โมนในเลือดมีค่าต่ำกว่าปกติ สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดหลังจากได้รับการรักษาด้วยการกลืนแร่ไอโอดีนหรือการผ่าตัดที่ต่อมไทรอยด์มาก่อน (Primary hypothyroidism)ส่วนสาเหตุส่วนน้อยเกิดจากความผิดปกติของต่อมใต้สมอง(Secondary hypothyroidism)
อาการ
เป็นอาการของการมีภาวะเมตาบอลิสมในร่างกายที่น้อยเกิน ได้แก่ ความคิดช้า เฉื่อยชา ง่วงนอน น้ำหนักขึ้น ขี้หนาว ผมร่วง ผิวแห้งหยาบ ตัวบวม หน้าบวม เป็นตะคริวบ่อย ท้องผูก อาการเหล่านี้มักค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ได้รับการวินิจฉัยล่าช้า หากไม่ได้รับการรักษาอาจมีผลเสียต่อระบบหัวใจและระบบไขมันในเลือดได้
การรักษา
โดยการรับประทานยาที่เป็นไทรอยด์ฮอร์โมน ซึ่งมักต้องรับประทานตลอดชีวิต
3.โรคต่อมไทรอยด์อักเสบ(Thyroiditis)
ที่พบบ่อยมี 2 ชนิดคือ อักเสบกึ่งเฉียบพลันและอักเสบเรื้อรัง
ต่อมไทรอยด์อักเสบกึ่งเฉียบพลัน ( Subacute thyroiditis) มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เช่น หวัด ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ต่อมไทรอยด์โต คลำที่ต่อมไทรอยด์จะรู้สึกเจ็บ โรคนี้สามารถรักษาด้วยการรับประทานยาสเตียรอยด์ ต่อมไทรอยด์จะยุบลงภายในเวลา 1-2 สัปดาห์ สามารถหายขาดได้ภายใน3-6 เดือน โดยต้องติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง ( Hashimoto thyroiditis) มีสาเหตุจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการคอโต กดไม่เจ็บ หรือมีประวัติคอโตแล้วยุบไปแล้วโดยไม่เคยรับการรักษามาก่อน การวินิจฉัยทำโดยการตรวจแอนติบอดีในเลือด การรักษาด้วยการรับประทานไทรอยด์ฮอร์โมนและติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
4.โรคต่อมไทรอยด์โตแบบไม่เป็นพิษ( Thyroid nodule)
คือการที่ต่อมไทรอยด์มีขนาดโตขึ้น แต่การสร้างฮอร์โมนยังปกติ มีทั้งชนิด ต่อมไทรอยด์โตก้อนเดียว(Single thyroid nodule) และ ต่อมไทรอยด์โตหลายก้อน(Multinodular goiter) โดยทั้งสองชนิดมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องตรวจด้วยวิธีการดูดเซลล์จากก้อนเนื้อไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง หลังจากนั้นจึงพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
5.โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์(thyroid cancer)
มีทั้งชนิดที่มีความรุนแรงน้อยซึ่งรักษาหายขาดได้และชนิดรุนแรงมากจนถึงแก่ชีวิตได้ภายในระยะเวลาสั้น
นอกจากนี้ยังมีชนิดที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งชนิดหลังนี้มักมีประวัติคนในครอบครัว และเกิดในคนอายุน้อย
ให้สงสัยก้อนที่คอนั้นอาจเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ เมื่ออายุน้อยกว่า 20ปี หรือมากกว่า 60 ปีก้อนมีลักษณะแข็งโตเร็ว มีต่อมน้ำเหลืองที่คอโตร่วมด้วย
-มีอาการกลืนลำบาก หรือหายใจลำบาก หรือเสียงแหบ
-มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์
-มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเนื้องอกของต่อมหมวกไต
การวินิจฉัย โดยการดูดเซลล์ที่ก้อนนั้นมาตรวจ
ส่วนการรักษานั้นขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็งโดยแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม
6.โรคของต่อมไทรอยด์ไม่ปรากฏอาการ
มี 2 ชนิด คือ ชนิดที่ทำงานน้อยเกินไป(Subclinical hypothyroidism) และชนิดที่ทำงานมากเกินไป(Subclinical hyperthyroidism) โดยที่ผู้ป่วยจะไม่มีอาการผิดปกติให้เห็น การวินิจฉัยด้วยวิธีการตรวจเลือดเท่านั้น ซึ่งมักพบเมื่อตรวจสุขภาพประจำปี
การรักษา
ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาทุกราย แต่แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเป็นรายๆไป และมีความจำเป็นต้องตรวจติดตามระดับฮอร์โมนอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ที่รับการรักษาและไม่ได้รับการรักษา
เมื่อไหร่ควรได้รับการตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์
-มีอาการของฮอร์โมนไทรอยด์สูงหรือต่ำเกินไป ดังได้กล่าวไว้ข้างต้น
-มีประวัติเคยตรวจเลือดแล้วพบความผิดปกติของไทรอยด์ฮอร์โมนมาก่อน
-มีประวัติได้รับการรักษาโรคไทรอยด์มาก่อน เช่น การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ การกลืนแร่ไอโอดีน
-มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์
-เป็นเบาหวานชนิดที่ 1
-มีภาวะมีบุตรยาก
-คอพอกหรือมีก้อนที่คอ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล :: https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services-th/dm-and-endocrinology-center-th/item/1798-thyroid-disorders-th.html