– มีงานวิจัยของ American Cancer Society’s Cancer Prevention Study II Nutrition Cohort ได้ทำการศึกษาในชายและหญิงมากกว่า 120,000 คน พบว่าคนที่รับประทานแคลเซียมปริมาณสูง มีโอกาสเกิด มะเร็งลำไส้น้อยกว่าคนที่รับประทานแคลเซียมปริมาณต่ำ อย่างไรก็ตามพบว่าการรับประทานแคลเซียมที่มากกว่า 1200 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ได้ทำให้เกิดผลดีเพิ่มขึ้น ถ้าแคลเซียมที่ได้รับมาจากการรับประทานอาหาร พบว่าไม่ สามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสำไส้แต่ถ้าเป็นแคลเซียมที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะช่วยลด การเกิดมะเร็งได้ โดยถ้ารับประทานตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไปจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงลงได้ถึง 31 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่นำมาศึกษาทั้งหมด
– งานวิจัยของ Nurses’ Health Study and the Health Professionals Follow-up Study ที่ศึกษา ในชายและหญิงมากกว่า 135,000 คน พบว่าคนที่รับประทานแคลเซียมมากกว่า 700 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยลด โอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายได้ 35-45 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ได้รับแคลเซียมน้อยกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้น
– งานวิจัยของ National Institutes of Health-American Association of Retired Persons (NIH-AARP) Diet and Health Study ศึกษาในผู้ชาย 293,000 คน ผู้หญิง 198,000 คน พบว่าการ รับประทานแคลเซียมปริมาณสูงในแต่ละวัน ทั้งจากอาหารและจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยลดการเกิดมะเร็ง ลำไส้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ในผู้ชาย และ 30 เปอร์เซ็นต์ในผู้หญิง
– งานวิจัยของ Calcium Polyp Prevention Study and European Cancer Prevention Organization Intervention Study พบว่าการรับประทานแคลเซียมวันละ 1200-2000 มิลลิกรัม จะช่วยลดการเกิดเนื้องอกในลำไส้ได้ ซึ่งเนื้องอกเหล่านี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็งตามมาได้
– การศึกษาของ European Prospective Investigation into Cancer and Nutrition ในชายมากกว่า 142,000 คน พบว่าการรับประทานโปรตีนหรือแคลเซียมปริมาณสูงทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น
– การศึกษาของ National Cancer Institute’s (NCI) Prostate, Lung, Colorectal, and Ovarian (PLCO) Cancer Screening Trial ก็พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากกับการ รับประทานแคลเซียมปริมาณสูง โดยเฉพาะแคลเซียมที่ได้จากผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำ
– แต่มีผลการศึกษาที่ขัดแย้งของ NIH-AARP Diet and Health Study ที่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาณแคลเซียมที่รับประทานกับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
การศึกษาของ Nurses’ Health Study ในหญิง 30,000 คน พบว่าหญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนกลุ่มที่ ได้รับแคลเซียมปริมาณสูง (มากกว่า 800 มิลลิกรัมต่อวัน) มีโอกาสในการเกิดมะเร็งเต้านมน้อยกว่ากลุ่มที่ได้ รับแคลเซียมปริมาณต่ำ (น้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน) แต่ไม่ได้ประโยชน์ในหญิงวัยหลังหมดประจำเดือน
– มีงานวิจัยของ American Cancer Society’s Cancer Prevention Study II Nutrition Cohort ได้ทำการศึกษาในชายและหญิงมากกว่า 120,000 คน พบว่าคนที่รับประทานแคลเซียมปริมาณสูง มีโอกาสเกิด มะเร็งลำไส้น้อยกว่าคนที่รับประทานแคลเซียมปริมาณต่ำ อย่างไรก็ตามพบว่าการรับประทานแคลเซียมที่มากกว่า 1200 มิลลิกรัมต่อวัน ไม่ได้ทำให้เกิดผลดีเพิ่มขึ้น ถ้าแคลเซียมที่ได้รับมาจากการรับประทานอาหาร พบว่าไม่ สามารถช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสำไส้แต่ถ้าเป็นแคลเซียมที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะช่วยลด การเกิดมะเร็งได้ โดยถ้ารับประทานตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นไปจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงลงได้ถึง 31 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ที่นำมาศึกษาทั้งหมด
– งานวิจัยของ Nurses’ Health Study and the Health Professionals Follow-up Study ที่ศึกษา ในชายและหญิงมากกว่า 135,000 คน พบว่าคนที่รับประทานแคลเซียมมากกว่า 700 มิลลิกรัมต่อวันจะช่วยลด โอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายได้ 35-45 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ได้รับแคลเซียมน้อยกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้น
– งานวิจัยของ National Institutes of Health-American Association of Retired Persons (NIH-AARP) Diet and Health Study ศึกษาในผู้ชาย 293,000 คน ผู้หญิง 198,000 คน พบว่าการ รับประทานแคลเซียมปริมาณสูงในแต่ละวัน ทั้งจากอาหารและจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยลดการเกิดมะเร็ง ลำไส้ได้ 20 เปอร์เซ็นต์ในผู้ชาย และ 30 เปอร์เซ็นต์ในผู้หญิง
– งานวิจัยของ Calcium Polyp Prevention Study and European Cancer Prevention Organization Intervention Study พบว่าการรับประทานแคลเซียมวันละ 1200-2000 มิลลิกรัม จะช่วยลดการเกิดเนื้องอกในลำไส้ได้ ซึ่งเนื้องอกเหล่านี้มีโอกาสที่จะกลายเป็นมะเร็งตามมาได้
– การศึกษาของ European Prospective Investigation into Cancer and Nutrition ในชายมากกว่า 142,000 คน พบว่าการรับประทานโปรตีนหรือแคลเซียมปริมาณสูงทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น
– การศึกษาของ National Cancer Institute’s (NCI) Prostate, Lung, Colorectal, and Ovarian (PLCO) Cancer Screening Trial ก็พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากกับการ รับประทานแคลเซียมปริมาณสูง โดยเฉพาะแคลเซียมที่ได้จากผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำ
– แต่มีผลการศึกษาที่ขัดแย้งของ NIH-AARP Diet and Health Study ที่พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง ปริมาณแคลเซียมที่รับประทานกับการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
การศึกษาของ Nurses’ Health Study ในหญิง 30,000 คน พบว่าหญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนกลุ่มที่ ได้รับแคลเซียมปริมาณสูง (มากกว่า 800 มิลลิกรัมต่อวัน) มีโอกาสในการเกิดมะเร็งเต้านมน้อยกว่ากลุ่มที่ได้ รับแคลเซียมปริมาณต่ำ (น้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน) แต่ไม่ได้ประโยชน์ในหญิงวัยหลังหมดประจำเดือน
This website uses cookies to improve your experience while you navigate through the website. Out of these, the cookies that are categorized as necessary are stored on your browser as they are essential for the working of basic functionalities of the website. We also use third-party cookies that help us analyze and understand how you use this website. These cookies will be stored in your browser only with your consent. You also have the option to opt-out of these cookies. But opting out of some of these cookies may affect your browsing experience.